นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นกลไกส่งเสริมการออมของประชาชนรายย่อย ผ่านการสมัครเป็นสมาชิก ซึ่งจะได้บำนาญเมื่อสมาชิกมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ รัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้กับผู้ที่นำส่งเงินออมตามระดับอายุของผู้เป็นสมาชิก และเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินสะสม
ซึ่งในช่วงปี 2561 จนถึงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 มีอัตราการเติบโตของสมาชิกและการนำเงินส่งออมเข้ากองทุนฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 จาก 6.1 แสนคน ปัจจุบัน 2 ล้านกว่าคน แต่ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้สมาชิกมีรายได้ลดลง ประมาณ 50% หยุดการนำส่งเงินเข้ากองทุน
ทั้งนี้ รัฐบาลขอย้ำให้ประชาชนสบายใจว่า หากสมาชิกไม่สามารถส่งเงินออมสะสมทุกเดือน หรือ ไม่สามารถส่งได้เท่ากันในทุก ๆ เดือน กอช. จะยังคงสิทธิความเป็นสมาชิก เพียงแต่จะไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐ และเมื่อมีรายได้เพียงพอต่อการออมก็ขอให้กลับมาส่งเงินสะสม เพื่อชดเชยส่วนที่ได้ขาดส่งไป เพราะหากมีเงินออมน้อย จะทำให้ได้รับเงินบำนาญน้อย
สำหรับในปี 2565 กอช. จะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนวาระการออมแห่งชาติ ผ่านการแก้กฎหมาย เพื่อจูงใจให้สมาชิกเข้ามาออมเพิ่ม โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญคือ การขยายอายุให้สมาชิกเข้ามาออมได้จาก 60 ปี เป็น 65 ปี และแก้กฎหมายให้ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 40 สามารถเข้ามาเป็นสมาชิก กอช. ได้
เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการออมได้มากขึ้น และรองรับสังคมสูงวัยอีกด้วย โดยขณะนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกอช.แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาในระดับนโยบายต่อไป นอกจากนี้ ยังจะมีการแก้กฎหมายให้สมาชิกที่เกษียณอายุและเกิดการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย สามารถเลือกรับบำเหน็จได้ จากเดิมกฎหมายระบุให้รับบำนาญได้อย่างเดียว
ส่วนประชาชนผู้ประกอบการอาชีพอิสระ หรือ เยาวชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นการออม ขอเชิญชวนให้มาเริ่มต้นการออมกับ กอช. ตัวอย่างผลตอบแทนที่น่าสนใจ อาทิ
“วัยทำงานเริ่มออมเมื่ออายุ 30 ปี วันละ 30 บาท จะมีเงินออมรวมประมาณปีละ 10,800 บาท พร้อมได้รับเงินสมทบจาก กอช. เพิ่มตามช่วงอายุ 600 บาท สูงสุด 1,200 บาทต่อปี หากคิดเงินสมทบเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยได้รับเพิ่มโดยประมาณ 3.5% ต่อปี เมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับบำนาญตลอดชีพประมาณเดือนละ 3,000 บาท”
ผู้ที่สนใจสมัคร หรือ ส่งเงินออมสะสมได้ที่แอปพลิเคชัน กอช. รวมถึงหน่วยรับสมัครสมาชิกใกล้บ้าน อาทิ
– ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ
– สำนักงานคลังจังหวัด
– สถาบันการเงินชุมชน
– ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน
– ธนาคารของรัฐ อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ทุกสาขา
– ไปรษณีย์ไทย สหกรณ์ชุมชน ที่เข้าร่วม
– เคาน์เตอร์เซอร์วิส เทสโก้โลตัส บิ๊กซี ตู้บุญเติม
– เครือข่ายรับสมัครทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนเงินออม โทร. 02-049-9000