นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 อนุมัติโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงิน 603.50 ล้านบาท และให้การยางแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณในการจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับโครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลายข้อ มีค่า นิวส์ สรุปได้ดังนี้
1. เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและลดต้นทุนทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) ที่รับซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
2. กำหนดเป้าหมายให้ผู้ประกอบกิจการยางสามารถซื้อผลผลิตยางแห้งได้ไม่น้อยกว่า 350,000 ตัน (คิดราคาเฉลี่ยปี 2564 ยางแผ่นดิบราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม)
3. รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อผลผลิตยางแห้งจากเกษตรกรชาวสวนยางในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี
4. ระยะเวลาดำเนินการโครงการจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564–ธันวาคม 2565
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติปรับปรุงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขอสินเชื่อเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ได้ เช่น
1. การขยายกำลังการผลิต
2. การปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิต ณ ที่ตั้งเดิมหรือที่ตั้งใหม่
3. การซื้อที่ดินเพื่อเป็นที่เก็บสต็อกยาง เป็นต้น
จากเดิมที่ผู้ประกอบการสามารถขอสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อไม้ยางและผลิตภัณฑ์มาเก็บสต็อกและแปรรูปเท่านั้น สำหรับรายละเอียดการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขมีดังนี้
1. แหล่งสินเชื่อ ผู้ประกอบการจะต้องมีสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและหรือ “สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์” กับสถาบันการเงินตามรายชื่อธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน (เฉพาะกิจ) ที่สนับสนุนสินเชื่อภายใต้โครงการ จากเดิมที่กำหนดเฉพาะ “สินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน” เท่านั้น
2. รัฐบาลสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ยในอัตราตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท จากวงเงินกู้ 20,000 ล้านบาท โดยเพิ่มเงื่อนไขให้สอดคล้องกับสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ คือ ชดเชยดอกเบี้ยสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อไม้ยาง และหรือชดเชยดอกเบี้ยสินเชื่อเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ในการขยายกำลังการผลิต/ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิต ณ ที่ตั้งเดิมหรือที่ตั้งใหม่ เพื่อใช้ในการประกอบกิจการ จากเดิมที่ไม่กำหนดเงื่อนไขดังกล่าว