นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน “สาธารณสุขห่วงใย มอบของขวัญผู้สูงวัย ในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2565” ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร พร้อมกล่าวถึงการมอบของขวัญ 3 ชิ้น ให้แก่ผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ มีค่า นิวส์ จึงสรุปมาฝากผู้สูงอายุกันค่ะ เพื่อจะได้รู้ว่าเราจะได้สิทธิอะไรกันบ้าง
ของขวัญชิ้นที่ 1 การคัดกรองความเสื่อมของร่างกาย มุ่งเน้น 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1. ภาวะโภชนาการ
2. การเคลื่อนไหวร่างกาย
3. สุขภาพช่องปาก
วิธีการ คือ จะดำเนินการคัดกรองโดยบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ผู้สูงอายุที่เริ่มมีความเสื่อมได้รับบริการด้านสุขภาพอย่างทันท่วงที ครอบคลุมผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน
ของขวัญชิ้นที่ 2 โปรแกรมการชะลอความเสื่อม เพื่อป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ ซึ่งดำเนินการโดย
หมอคนที่ 1 ทำหน้าที่เยี่ยมบ้าน และเสริมพลังผู้สูงอายุและญาติให้ดำเนินกิจกรรมตามโปรแกรมที่วางแผนไว้ ครอบคลุมผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงกว่า 1 ล้านคน
หมอคนที่ 2 ทำหน้าที่วางแผนโปรแกรม สาธิตวิธีการ และให้การดูแลรักษาเบื้องต้น
ของขวัญชิ้นที่ 3 มอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง ประกอบด้วย
1. ผู้บริบาลผู้สูงอายุในระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ได้แก่
– ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care manager) จำนวน 16,000 คน แ
– ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) จำนวน 100,000 คน
– สนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้กับผู้สูงอายุติดเตียง เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ
2. ผู้บริบาลในครอบครัว (Family caregiver) ครอบคลุมผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้าน และติดเตียงกว่า 5 แสนคน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาโรค และฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งดำเนินการในระดับพื้นที่ผ่านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ที่จะต้องกำหนดทิศทางให้กับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และหน่วยบริการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่เร่งยกระดับการส่งเสริมสุขภาพ ให้เกิดผลลัพธ์ต่อสุขภาพประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุอย่างยั่งยืนต่อไป
