หลังจากโรคลัมปีสกินในโคและกระบือ ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่แพร่ระบาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกรวมกว่า 62 จังหวัด วันนี้ มีค่า นิวส์ มีข่าวดีมาฝากเกษตรกรทุกคน เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงและสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค โดยนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกมาเปิดเผยว่า ทาง ธ.ก.ส. ได้จัดทำประกันภัย ผ่านโครงการประกันภัยโคนมและโครงการประกันภัยโคเนื้อ เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายอันเนื่องมาจากการตายของโคที่เจ็บป่วย หรือ เกิดอุบัติเหตุให้พยุงตัวได้ และมีทุนเริ่มต้นใหม่
สำหรับโครงการประกันภัยโคนมดังกล่าว จะมีบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย โดยคิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 810 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) ให้ความคุ้มครองการตายจากการเจ็บป่วยของโคนม ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว การตายจากอุบัติเหตุไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว และการตายจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม และลมพายุ ไม่เกิน30,000 บาทต่อตัว มีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี โดยโคนมต้องมีใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์ อายุโคนมตั้งแต่ 18 เดือน – 8 ปี และทั้งนี้ สามารถทำประกันภัยโคนมบางตัวในฟาร์มได้
ส่วนโครงการประกันภัยโคเนื้อ จะมีบริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย คิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) คุ้มครองการตายจากการเจ็บป่วยของโคเนื้อ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว และการตายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม ดินถล่ม พายุ และแผ่นดินไหว ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครองสิ้นสุด เมื่อส่งขายคอกกลางหรือ 6เดือน นับจากวันขอเอาประกันภัย โดยโคเนื้อที่ขอเอาประกันภัย ต้องมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีความพิการ
นอกจากนี้ ยังต้องมีผลกับสุขภาวะและไม่เป็นโรคเรื้อรัง ไม่อยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล มีอายุไม่เกิน 36 เดือน ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ และมีการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ (NID คือ การเขียนที่ใบหู / RFID คือ การฝังชิบที่ใบหู) มีบันทึกประวัติถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อยและโรคคอบวม(Hemorrhagic Septicemia)แล้วไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ขอเอาประกันภัย โดยเกษตรกรผู้เอาประกันภัย จะต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนของโคเนื้อ
ทั้ง 2 โครงการ ผู้ขอเอาประกันภัย ต้องเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ โดยโคที่ขอเอาประกันภัยต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคหรือไม่เจ็บป่วยในช่วงระยะเวลารอคอยหรือภายในช่วง 30 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครอง จึงขอเชิญชวนเกษตรกรร่วมทำประกันภัยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขา หรือ โทรไปที่ Call Center 02-555-055