สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ข้อมูลตรงกันว่า การฉีดวัคซีนสลับชนิดกันมีประโยชน์ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงต่อสู้เดลตาได้ดี
ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบการฉีดซิโนแวคเข็มแรกเว้น 3 สัปดาห์แล้วฉีดด้วยแอสตร้าเซนเนก้า จะกระตุ้นประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันสูงขึ้นใกล้เคียงแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม และใช้ระยะเวลาสร้างภูมิคุ้มกันเร็วกว่า จากเดิมฉีดแอสตร้าเซนเนก้าต้องใช้เวลา 12 สัปดาห์ ส่วนกรณีฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก ไม่ต้องสลับวัคซีนในเข็มสอง ทั้งนี้ จะจัดเตรียมวัคซีนให้เหมาะสมเพียงพอ เอาไปใช้ได้ตามสถานการณ์จำเป็นที่เหมาะสมต่อไป
ส่วนการฉีดบูสเตอร์โดสบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า จะฉีดห่างจากเข็ม 2 ประมาณ 3-4 สัปดาห์ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ดำเนินการได้ทันที หรือ mRNA ตามความเหมาะสม ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ที่รับบริจาคอยู่ระหว่างรอกำหนดส่งมอบ ส่วนคนทั่วไปครบ 2 เข็มจะพิจารณาบูสเตอร์โดสลำดับต่อไป