ร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง หรือ เพ็ท ช็อป (Pet Shop) ถือเป็นธุรกิจยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ยังมีรายได้ดีเสมอ เพราะตราบใดที่ยังมีคนรักสัตว์ ธุรกิจนี้ ก็ยังดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ แต่พอโควิด-19 แพร่ระบาด หลายคนอาจจะคิดว่า ธุรกิจนี้ต้องได้รับผลกระทบมากแน่ๆ เนื่องจากคนกลัวติดเชื้อ ไม่กล้าออกมาซื้อของที่ร้าน
SME ทันข่าว มีค่า นิวส์ มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณเจษฎา เลิศไกรวัล หรือ คุณเจ คณะกรรมการผู้จัดการ (หัวหน้าฝ่ายการตลาด) ร้านขายอาหารอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง Browney Pet World จังหวัดเชียงราย ที่จะมาพูดคุยถึงการปรับตัว สู้กับโควิด ด้วยเหตุผลที่ว่า แม้จะเป็นช่วงโควิด แต่ร้านของคุณเจ ยังมีรายได้ต่อเนื่องหลักล้านบาท! คุณเจ มีเคล็ดลับอย่างไร ไปติดตามพร้อมกันค่ะ
คุณเจ กับ บทบาทนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง จุดเริ่มต้น คืออะไร
คุณเจ เล่าถึงจุดเริ่มต้น เกิดจาก ปี 2557 คุณเจเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี เกี่ยวกับด้านสื่อสารมวลชน คุณพ่อ อยากให้หางานทำอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดเชียงราย ไม่อยากให้เดินทางมาทำงานที่กรุงเทพ เนื่องจากพี่ชายก็ช่วยคุณพ่อดูแลกิจการรถยนต์ที่เชียงราย น้องชายก็เรียนอยู่ เลยมองหาธุรกิจอะไร ที่ในจังหวัดเชียงรายยังไม่มี
ซึ่งตอนนั้น มีญาติทำธุรกิจ ขายอาหารอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง อยู่ที่จังหวัดอื่นพอดี คุณเจ ก็เลยเกิดความคิด เตรียมนำธุรกิจนี้มาเปิดในจังหวัดเชียงราย แต่ยังไม่ทันได้ทำ ก็โดนคนรอบข้างดูถูกว่า“เป็นเด็กจบใหม่ เป็นคนรุ่นใหม่ จะทำธุรกิจเป็นได้อย่างไร เดี๋ยวก็เจ๊ง” คุณเจ จึงเก็บคำดูถูกเหล่านั้น มาลุยธุรกิจนี้ทันที ในปี 2558
เริ่มต้นทำธุรกิจนี้อย่างไร แล้วบริหารจัดการร้านอย่างไร เพราะทราบว่าไม่มีประสบการณ์การทำธุรกิจ
คุณเจ บอกว่า ตอนแรกก็กังวล เพราะไม่มีเงินทุนเลย แต่ครอบครัวเข้ามาช่วย ลงทุนจำนวน 7 ล้านบาท โดยมีคุณพ่อช่วยเรื่องก่อสร้างร้าน มีน้องชายช่วยงาน ซึ่งระหว่างนั้น คุณเจก็เรียนรู้ธุรกิจนี้ควบคู่ไปด้วย ทั้งการศึกษาสินค้า ติดต่อกับโรงงานผลิต และขอเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ / ศึกษาชนิดสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท รวมถึงการไปดูต้นแบบการจัดวางสินค้าจากห้างดัง
จากนั้นเมื่อเริ่มเปิดร้าน ก็วางแผนงาน จัดหมวดหมู่สินค้ากว่า 50 ประเภท จ้างพนักงาน รวมกว่า 30 ชีวิต สอนระบบงานให้ ทั้งการดูแลลูกค้า อบรมเรื่องรายละเอียดสินค้า เพื่อให้สามารถตอบคำถามลูกค้าได้ พร้อมทั้งนำความรู้ที่เรียนมา เอามาปรับใช้กับร้าน ในเรื่องการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ของร้าน ดูแลตกแต่งเพจเฟซบุ๊กร้าน https://www.facebook.com/BrowneyPetWorld/ ให้ดูมีสีสัน น่าซื้อ คิดโปรโมชั่น ดึงดูดลูกค้า เน้นการประชาสัมพันธ์ สื่อสารกับลูกค้าเป็นหลัก
หลังได้ลองลงมือทำ มีอุปสรรคอะไรไหม
จากตอนแรกที่เริ่มทำ มีความกังวล พอได้ลองทำ รู้สึกสนุก เหมือนเราสวมหมวกหลายใบ จึงลุยงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ยอมรับว่า มีอุปสรรค เรื่องความเห็นไม่ลงรอยกับคุณพ่อ เนื่องจากท่านอยู่ในแวดวงธุรกิจมาตลอด แต่คุณเจ ไม่มีประสบการณ์ เรื่องของการนำเสนอความคิดเห็น จึงค่อนข้างมีข้อขัดแย้งกันตลอด ตรงจุดนี้ คุณเจก็แก้ปัญหาด้วยการขอลองทำให้คุณพ่อเห็น ทำในแบบของตัวเอง จนคุณพ่อ ไม่ค่อยโต้แย้งกับคุณเจแล้ว
นอกจากนี้ คุณเจก็ยังเจออุปสรรค เรื่องการเรียนรู้สินค้าแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ เพราะมีจำนวนเยอะมาก / รวมถึงการเรียนรู้สายพันธุ์สัตว์เลี้ยง เช่น สัตว์พันธุ์นี้ เหมาะกับอาหารสัตว์แบบไหน อาการที่ผิดปกติของสัตว์เลี้ยง ต้องให้อาหารแบบไหน เป็นต้น การแก้ปัญหา คือ ค่อยๆเรียนรู้ไป หมั่นศึกษาหาความรู้จนเข้าใจถ่องแท้
โดยคุณเจ คิดว่า “การทำธุรกิจไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีเส้นชัย มันคือการทำงานในระยะยาว วางแผนทำส่วนนี้เสร็จแล้ว ก็ทำส่วนใหม่อีก เหมือนเรามีลูกคนหนึ่ง ที่ต้องประคอง เฝ้าดูการเติบโตไปเรื่อยๆ”
รายได้ต่อเดือนเป็นอย่างไร เปรียบเทียบช่วงก่อนเจอโควิด และช่วงนี้ที่เจอโควิด
แรกๆที่ทำ ได้เงินเพียงหลักหมื่นบาทต่อเดือน แต่หลังจากลุยแบบจริงจัง มาถึงตอนนี้ก็ 6 ปี แล้ว ร้านมีรายได้สูงสุด 5-6 ล้านบาทต่อเดือนคงที่ แต่ช่วงที่เจอโควิด ลูกค้าไม่ค่อยมาซื้อของที่ร้าน คุณเจเลยเน้นการขายออนไลน์ แม้รายได้จะลดลง แต่ก็ไม่ต่ำกว่าหลักล้าน จะอยู่ที่ล้านต้นๆ ต่อเดือน
อะไร…คือเทคนิคของการรักษารายได้หลักล้าน! ต่อเดือน ในช่วงที่เจอโควิดแบบนี้
ทางร้านเน้นการเข้าใจลูกค้า เอาใจลูกค้า ทำทุกอย่างให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพราะเชื่อว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ถ้าเรามีลูกค้า เราจะยังขายสินค้าได้ และลูกค้าจะรักในความเอาใจใส่ของเรา ซึ่งคุณเจ บอกว่า มีเทคนิค 3 ข้อ ดังนี้
1.อบรมพนักงานให้มีประสิทธิภาพ มีความรอบรู้ทุกด้าน
2.ปรับเปลี่ยนตำแหน่งพนักงาน ช่วยงานออนไลน์มากขึ้น
3.คิดโปรโมชั่นออนไลน์ให้โดนใจ ดึงดูดลูกค้าซื้อสินค้า
อยากให้ฝากถึงผู้ประกอบการคนอื่นๆ มีอะไรอยากบอกต่อไหม
“ทุกคนเจอโควิดเหมือนกันหมด ขึ้นอยู่กับได้รับผลกระทบมากหรือน้อย เจมองว่า เราต้องสู้คิดหาวิธีให้ได้ว่าเราจะอยู่ได้อย่างไร ด้วยวิธีไหน แล้วลองทำดูก่อน ถ้ารอดไปได้ ก็ถือเป็นบททดสอบความสามารถ แต่สำหรับเจ คิดว่า การฟังเสียงลูกค้าสำคัญ เพราะถ้าเรารู้จักลูกค้าของเราดีพอ ธุรกิจของเราก็ยังจะเดินหน้าต่อไปได้”