ข่าวมีค่า ติดตามเรื่องราวการผลักดัน “ร้านค้าโชห่วย” ขนาดใหญ่เข้าสู่ “ตลาดหุ้น” ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและทำให้ธุรกิจเติบโต และในขณะเดียวกัน ก็เป็นการนำผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่ผู้คนคุ้นเคย ไปสู่การเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในระดับประเทศ ที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้
ที่มา
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้ผลักดันให้ “ร้านโชห่วยขนาดใหญ่” เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยในปัจจุบันมีร้านค้าโชห่วยขนาดใหญ่เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปแล้วจำนวน 2 ร้านค้า และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 2 ร้านค้า
“โชห่วย” เป้าหมาย
สนับสนุน “โชห่วยดาวเด่น” ซึ่งเป็นร้านระดับจังหวัดหรือระดับท้องถิ่นที่ผู้บริโภคคุ้นเคย ให้เป็นร้านค้าระดับประเทศ
ทำไม “โชห่วย” ต้องเข้าตลาดหุ้น?
- สร้างความความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ
- แสดงศักยภาพของร้านค้าโชห่วยไทย
- ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทย
- เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ประโยชน์ของการเข้าตลาดหุ้น
- สร้างช่องทางการระดมทุนในระยะยาว
- เพิ่มโอกาสในการลงทุนให้กับธุรกิจ
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
- เป็นการปรับตัวให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ
“โชห่วย” เจ้าไหนที่เข้าตลาดหุ้น?
ร้านโชห่วยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI แล้ว มี 2 บริษัท คือ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) จังหวัดเชียงราย และ บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) จังหวัดสงขลา นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ร้านค้า ในจังหวัดกระบี่และจังหวัดอุบลราชธานี ที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
“กองหนุน” ช่วยโชห่วย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับร้านค้าโชห่วยกลุ่มเป้าหมาย โดยให้คำปรึกษาเชิงลึกและความรู้ต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ, การกำหนดโครงสร้างผู้ถือหุ้น, กลยุทธ์และแผนการตลาด รวมถึงคำแนะนำขั้นตอนการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และปัจจัยอื่นที่สำคัญต่อการจดทะเบียน
“โชห่วยไทย” ในปัจจุบัน
- ปัจจุบันประเทศไทยมี “ร้านค้าส่งค้าปลีก” จำนวนทั้งสิ้น 4 แสนกว่าร้านค้า
- เป็นร้านค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ – กลาง (นิติบุคคล) 18,735 ร้านค้า
- ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก / ร้านโชห่วย ประมาณ 400,000 ร้านค้า
ข่าวมีค่า เห็นว่าการเข้าสู่ตลาดหุ้นของธุรกิจโชห่วยถือเป็นแรงกระตุ้นที่ดีต่อธุรกิจค้าปลีกในภาพรวม ทั้งการเป็นตัวอย่างให้ผู้ประกอบการได้เห็นว่า หากทำธุรกิจให้แข็งแกร่งและมีศักยภาพ ก็สามารถนำชื่อของธุรกิจจากต่างจังหวัดมาสู่การเป็นธุรกิจในระดับประเทศได้ รวมทั้งยังเป็นเรื่องที่ดีต่อผู้บริโภค ที่จะมีทางเลือกในการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ที่มา :