ข่าวมีค่า ติดตามรายละเอียดของแผนการ “เปิดประเทศ” ที่ภาครัฐเคาะแล้วว่าจะเริ่มต้นในวันที่ 1 เมษายน ที่จะถึงนี้ โดยมี “ภูเก็ต” เป็นพื้นที่นำร่องสำคัญ และจะมีแผนยกระต่อไปเรื่อยๆ ในไตรมาสต่อๆ ไป เพื่อนำไปสู่การเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวอีก ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565
เปิดประเทศ 1 เม.ย.
1 เมษายน 2564 คือวันที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด –19) หรือ ศบค. กำหนดให้เป็นวันเริ่มต้นการเปิดประเทศ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง
“เปิดประเทศ” ฟื้นการท่องเที่ยว
ที่ผ่านมาภาครัฐเอกชนมีการหารือถึงแผนการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ โดยมีการหารือถึงการร่นระยะเวลาการเปิดประเทศให้เร็วขึ้น และมาตรการด้านความปลอดภัยในการรองรับนักท่องเที่ยว ขณะที่ภาคเอกชน โดย 8 องค์กร / สมาคมด้านการท่องเที่ยวและการบิน ก็ได้ยื่นหนังสือถึงภาครัฐ เรียกร้องให้เร่งเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
1 เม.ย. : กักตัว 7 วัน
ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้รับทราบมติของ ศบค.ในการเปิดประเทศ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยใน เฟสที่ 1 (เมษายน – มิถุนายน 2564) จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ภูเก็ต, กระบี่, พังงา, เกาะสมุย, พัทยา และเชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน
1 ก.ค. : ได้วัคซีนครบไม่ต้องกักตัว
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นวันที่จะเริ่มต้นไม่กักตัว สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และใช้ “ภูเก็ต” เป็นพื้นที่นำร่อง โดยแผนของ เฟสที่ 2 (กรกฎาคม – กันยายน 2564) คือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่ภูเก็ตและได้รับวัคซีนครบโดสจะไม่ต้องกักตัว และถ้าอยู่ในภูเก็ตครบ 7 วันแล้วไม่พบเชื้อ สามารถออกเดินทางไปพื้นที่อื่นๆ ได้
ส่วน เฟสที่ 3 (ตุลาคม – ธันวาคม 2564) จะเพิ่ม กระบี่, พังงา, พัทยา และเชียงใหม่ เป็นพื้นที่นำร่องที่นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วไม่ต้องทำการกักตัว และคาดว่าในไตรมาสแรกของปี 2565 นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วจะสามารถเดินทางเข้าประเทศได้และไปได้ทุกที่
“ภูเก็ต” พร้อมรับนักท่องเที่ยว
- ในช่วงแรกจะใช้รูปแบบ “แอเรีย ควอรันทีน” ในการรองรับนักท่องเที่ยว
- การเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่มีการกักตัว อยู่ภายใต้เงื่อนไขคือ นักท่องเที่ยวได้รับวัคซีนแล้วและมีผลตรวจเป็นลบ ส่วนคนในพื้นที่ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง
- ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดให้ได้อย่างน้อย 70% ก่อนเริ่มรับนักท่องเที่ยว
- แจ้งจำนวนวัคซีนที่จังหวัดต้องการต่อภาครัฐ โดยมีตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 9.25 แสนโดส
- ตั้งเป้าพร้อมต้อนรับการมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบเต็มรูป ภายในเดือนกรกฎาคม 2564
“ไทย” จุดหมายยอดนิยม
รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ผ่านช่องทางออนไลน์ในตลาดหลักสำคัญ 18 ตลาด รวมจำนวน 4,518 ราย ระหว่างวันที่ 20 – 22 มีนาคมที่ผานมา พบว่า “ประเทศไทย” เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวในทุกตลาด โดยมีการระบุถึง กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, เกาะสมุย, พัทยา, เชียงใหม่, กระบี่ และหัวหิน
การที่แผนเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในเดือนเมษายนจะดำเนินไปได้ตามเป้าที่วางไว้ ข่าวมีค่า เห็นว่ามีปัจจัยสำคัญ คือความพร้อมของ “ภูเก็ต” ซึ่งถือเป็นเมืองนำร่อง และจังหวัดท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ, การควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศ และความก้าวหน้าในการฉีดวัคซีน ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี โอกาสที่แผนการนี้จะประสบความสำเร็จก็เป็นได้สูงทีเดียว
ที่มา :
- มติชน : www.matichon.co.th/economy/news_2643577
- กรุงเทพธุรกิจ : www.bangkokbiznews.com/news/detail/929633
- ประชาชาติธุรกิจ : www.prachachat.net/local-economy/news-637124
- ผู้จัดการ : https://mgronline.com/business/detail/9640000029620
- ฐานเศรษฐกิจ : www.thansettakij.com/content/politics/474027