นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่มาจากอิทธิพลพายุโซนร้อน เช่น พายุเตี้ยนหมู่ ไลออนร็อก คมปาซุ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัยของเกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท
เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้เป็นค่าลงทุนในการประกอบอาชีพ การสร้าง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย หรือลงทุนซ่อมแซมโรงเรือนการเกษตร เครื่องมือ เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพการเกษตรหลังจากได้รับความเสียหาย วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2 (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 15 ปี นับแต่วันกู้
ก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส. ได้ออกสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประสบภัยนำไปใช้จ่ายที่จำเป็นเร่งด่วนภายในครัวเรือน รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน และตั้งแต่เดือนที่ 7 อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี)ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันกู้
อีกทั้ง ธ.ก.ส. ได้พิจารณาขยายระยะเวลาชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยออกไปสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ตามศักยภาพของลูกหนี้โดยไม่คิดดอกเบี้ยปรับ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามความหนักเบาของเกษตรกรผู้ประสบภัยเกษตรกรผู้ประสบความเดือดร้อน สามารถติดต่อ ธ.ก.ส. ในพื้นที่เพื่อขอรับการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ได้ทันที หรือสอบถามที่ Call Center 02-555-0555