จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้ผู้ป่วยบางรายได้รับผลกระทบหลังติดเชื้อโควิด คือ “อาการสมองเสื่อมถอย” มีค่า นิวส์ ทราบจากนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาการดังกล่าว มักพบในช่วง 1-6 เดือน หลังจากติดเชื้อโควิด-19
ซึ่งเป็นภาวะที่สมรรถภาพการทำงานของสมองถดถอย ส่วนมากในด้านสมาธิ ทักษะในการตัดสินใจ การวางแผน และความจำระยะสั้น โดยจะมีอาการรู้สึกสมองล้า (brain fog) รู้สึกตื้อ มึน ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ ส่งผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวัน การทำงาน หรือ การเข้าสังคม ทำให้ส่งผลเสียในระยะยาว
ปัจจัยเสี่ยงเกิดจาก
1.ผู้ป่วยมีโรคทางระบบประสาทและสมองอยู่เดิม เช่น
– โรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคร่วมหลายอย่าง เมื่อเกิดการติดเชื้อโควิด-19 แบบเฉียบพลันและมีอาการรุนแรง จะทำให้มีภาวะขาดออกซิเจน ส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล
– มีอาการทางระบบประสาทและสมองเสื่อมถอย
อาการสามารถดีขึ้นเองได้เมื่อเวลาผ่านไป การดูแลตนเองอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น
– การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
– กินอาหารดีและมีประโยชน์ โดยเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
– ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
– ทำกิจกรรมที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นสมอง
– ฝึกการคิดวิเคราะห์ ฝึกสมาธิ หรือ งานอดิเรกที่สร้างความผ่อนคลาย จะช่วยให้สมองและระบบประสาทฟื้นตัวและกลับมาเป็นปกติได้เร็วและดียิ่งขึ้น
2.ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะโรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือ ผู้สูงอายุที่มีโรคร่วมหลาย ๆ อย่าง
ควรติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติตัวตามมาตรการการดำรงชีวิตวิถีใหม่ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรค ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการสมองเสื่อมถอยหลังติดเชื้อโควิด-19 ได้ และหากเกิดติดเชื้อ และมีอาการสมองเสื่อมถอยแล้วพบว่า อาการไม่ดีขึ้นในระยะเวลา 6 เดือน ควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อขอคำปรึกษาและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป