สำหรับคำถามที่ว่า ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) หากเคยติดเชื้อโควิดแล้ว จะมีโอกาสเป็นลองโควิดมั้ย และจะทำให้อาการป่วยแย่ลงหรือไม่ มีค่า นิวส์ ทราบจากนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า มีการคาดประมาณว่า 1 ใน 4 ของผู้ป่วยประชากรโลกที่เป็นโรค NCD มีความเสี่ยงสูง ที่จะแพร่ระบาดและมีการติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น โดยจะเหลืออาการ ที่เรียกว่า อาการเรื้อรัง เกิดได้กับหลายระบบในร่างกาย หรือเรียกว่า ลองโควิด (Long Covid) สามารถเกิดขึ้นได้ทุกกลุ่มอายุ สวนใหญ่เกิดจากสุขภาพ หรือโรคประจำตัว โดยเฉพาะคนที่มีความอ้วนและผู้หญิง จะมีโอกาสเกิดลองโควิดได้มากกว่า
ด้านนายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของลองโควิด จะคล้ายกับอาการของโรค NCD หลายโรค ทั้งโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจอุดตันอุดกั้นเรื้อรัง โรคที่มีผลต่อจิตใจและระบบประสาท มีอาการปวดทั่วๆไป อ่อนแรง หายใจเหนื่อยหายใจไม่อิ่ม เจ็บหน้าอก เจ็บกล้ามเนื้อ ใจสั่นหรือมีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น การรับรู้ผิดปกติ การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ปอดและสมองลดลง รวมถึงไต ตับ ตับอ่อน ม้าม ต่อมหมวกไตและทางเดินอาหาร อาจเกิดเป็นลักษณะเฉพาะบุคคลหรือหลายอาการรวมกัน เป็นแค่ชั่วคราวหรือระยะเวลานานหรือถาวร
ภาวะแทรกซ้อนระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
1. กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
2. สมองล้า
3. ภาวะพร่องทางระบบประสาทอัตโนมัติ
4. ภาวะ Guillain-Barre Syndrome (ภาวะระบบประสาทส่วนปลายถูกทำลายด้วยภูมิคุ้มกันแบบเฉียบพลัน)
5. โรคเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อเรื้อรัง
6. โรคนอนไม่หลับ
ขณะที่รศ.(พิเศษ) นพ.สถิตย์ นิรมิตรมหาปัญญา รองผู้อำนวยการด้านนวัตกรรมและวิจัยทางการแพทย์ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ความดัน มะเร็ง ทางเดินหายใจอุดตันเรื้อรัง ต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะรักษาลองโควิดตามอาการเป็นหลัก ดังนั้น หากมีอาการแล้วพบแพทย์โดยเร็ว และตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้รู้ทันความผิดปกติ รักษาได้ทันท่วงทีและดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมจากภาวะแทรกซ้อนลองโควิด