ปัจจุบันประชาชนทุกเพศทุกวัย มีการใช้อุปกรณ์ดิจิตอล เช่น คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต ในชีวิตประจำวันมากขึ้น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและการทำงาน ซึ่งจากการที่ใช้อุปกรณ์ดิจิตอลมากขึ้น ทำให้เกิดอาการ Computer Vision Syndrome (CVS) จักษุแพทย์แนะดูแลสุขภาพดวงตาให้มากขึ้น แนะนำจัดตารางการทำงาน และชีวิตส่วนตัวให้เหมาะสม มีค่า นิวส์ สรุปอาการเบื้องต้นมาฝากค่ะ
ภาวะ computer vision syndrome คือ กลุ่มอาการทางตา ที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โดยจะมีอาการดังกล่าวข้างต้น มีการศึกษาพบว่าประมาณ 90% ของผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน มักเคยประสบกับกลุ่มอาการนี้ ทั้งนี้ อาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น การกระพริบตาลดลงขณะใช้คอมพิวเตอร์ทำให้ตาแห้ง แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม รวมทั้งการมีแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์แ ตัวอักษรบนจอไม่คมชัด
สังเกตอาการเบื้องต้น
1.ปวดเมื่อยตา ตาแห้ง
2.ตาล้า แสบตา เคืองตา
3.ตาพร่ามัว โฟกัสได้ช้าลง
4.ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดกระบอกตา
5.ปวดศีรษะ หรือบางครั้งมีอาการปวดหลัง ปวดไหล่ หรือปวดต้นคอร่วมด้วย อาจส่งผลต่อการนอนหลับได้
หากมีอาการที่กล่าวข้างต้น ร่วมกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานในแต่ละวัน อาจบ่งบอกว่าอาจอยู่ในกลุ่มอาการที่เรียกว่า computer vision syndrome แม้ว่ากลุ่มอาการนี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อดวงตาหรือการมองเห็น แต่มักก่อให้เกิดความไม่สบายตา และอาจเป็นปัญหารบกวนการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันได้
วิธีการป้องกัน หรือหลีกเลี่ยง ภาวะcomputer vision syndrome
1.กะพริบตาให้บ่อยขึ้น การนั่งจ้องหน้าจอนาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน จะทำให้อัตราการกะพริบตาลดลงจาก 20-22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 – 8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ตาแห้งได้ ดังนั้นจึงควรกะพริบตาให้บ่อยขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียม เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาก็ได้เช่นกัน
2.ปรับความสว่างในห้องทำงาน และหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดยลดแสงสว่างจากภายนอก หรือแสงจากในห้องทำงานที่สว่างมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดแสงสะท้อนที่จอคอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่สบายตาได้ และปรับเพิ่มความแตกต่างของสีระหว่างตัวอักษรกับพื้นจอภาพเพื่อให้อ่านง่าย และปรับความสว่างของหน้าจอให้สบายตา
3.พักสายตาทุก ๆ ชั่วโมง โดยยึดหลัก “20 – 20 – 20” คือ การละสายตาจากหน้าจอ และมองออกไปไกลระยะ 20 ฟุตทุก ๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาทีต่อครั้ง จะช่วยลดอาการตาล้าได้
4.ปรับระดับการมองจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดยจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ควรห่างจากตา ประมาณ 20-28 นิ้ว และต่ำลงจากระดับสายตาประมาณ 4-5 นิ้ว
5.ใส่แว่นแก้ไขสายตาที่เหมาะสม เนื่องจากการมีสายตาที่ผิดปกติ แล้วต้องเพ่งหน้าจอนานๆ อาจทำให้ปวดกระบอกต
ดังนั้น ในสถานการณ์ที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ประชุมออนไลน์จนดึกดื่น และไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ที่บ้านไปอีกนานเท่าไหร่ แนะนำดูแลสุขภาพตัวเอง จัดตารางการทำงาน และชีวิตส่วนตัวให้เหมาะสม หากรู้สึกว่าดวงตามีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาจักษุแพทย์ ตรวจเช็คดวงตา เพื่อที่จะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที
**เพย์เดย์ เพย์ใจ เงินเดือนออก ก็เปย์ตัวเองที่ GQ ลดทั้งร้านสูงสุด 90% พร้อมโค้ดลดสุดคุ้มเพียบ มีค่า นิวส์ พาไป >> https://invle.co/clgxyjm