นาวาตรี สมรักษ์ คำสิงห์ ร.น. ชื่อเล่น บาส เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2516 ปัจจุบันอายุ 50 ปี เป็นชาวหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น (ปัจจุบันคือ อำเภอบ้านแฮด) เขาในครอบครัวยากจน เป็นบุตรคนกลาง ในจำนวนลูกทั้ง 3 คน ของ นายแดง และนางประยูร คำสิงห์ พี่ชายของ สมรักษ์ เป็นนักมวยด้วย ชื่อ สมรถ คำสิงห์
ชีวิตครอบครัว สมรักษ์ สมรสกับนางเสาวนีย์ คำสิงห์ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่ขอนแก่น มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ และ โบ๊ท ภูวรักษ์ คำสิงห์
สมรักษ์ มีพ่อเป็นนักมวยเก่า จึงได้รับการฝึกการชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก ขึ้นชกมวยครั้งแรก ขณะอายุได้ 7 ปี และได้ตระเวนชกตามเวทีงานวัดต่าง ๆ จนทั่ว และได้รับการทาบทามจาก ณรงค์ กองณรงค์ หัวหน้าคณะณรงค์ยิมให้มาร่วมค่าย สมรักษ์ จึงขอขึ้นชกมวยไทยในชื่อ สมรักษ์ ณรงค์ยิม และกลายเป็นนักมวยมีชื่อในแถบจังหวัดขอนแก่น
ต่อมา ณรงค์ กับ พ่อของสมรักษ์ เกิดแตกคอกัน สมรักษ์ จึงย้ายไปอยู่ค่ายศิษย์อรัญ เข้ามาชกมวยในกรุงเทพฯ ได้ไปเรียนที่ โรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา โดยชกทั้งมวยไทย และมวยสากลสมัครเล่น แต่พอสมรักษ์ขึ้น ม.2 พ่อก็ถึงแก่กรรม ซึ่งในเส้นทางมวยไทย สมรักษ์ตระเวนชกตามเวทีต่าง ๆ ทั้ง ชลบุรี สำโรง อ้อมน้อย
จนกระดูกแข็ง เจนสังเวียนมากขึ้น สมรักษ์ จึงขึ้นชกมวยที่เวทีมาตรฐานทั้งเวทีราชดำเนินและเวทีลุมพินี มีโอกาสขึ้นชกกับนักมวยชื่อดังยุคนั้นหลายคน กระทั่ง ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้สมรักษ์โด่งดังถึงที่สุดใน พ.ศ. 2539 เมื่อสมรักษ์สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้
เมื่อโด่งดัง สมรักษ์ ก็มีงานในวงการบันเทิงเข้ามา เริ่มจาก ละครเรื่อง นายขนมต้ม ทางช่อง 7 ที่รับบทเป็นนายขนมต้มพระเอกเอง โดยประกบคู่กับ กุลณัฐ ปรียะวัฒน์ นางเอก และเพื่อน ๆ นักมวยรุ่นพี่อีกหลายคน และนับแต่นั้นมา สมรักษ์ ก็มีสถานะเหมือนเป็นดาราคนหนึ่ง มีงานต่าง ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้เอาใจใส่ในการชกมวยน้อยลง กระทั่งเลิกชก
แต่ สมรักษ์ ยังคงมีผลงานในวงการบันเทิง มีผลงานออกมาเป็นระยะ ๆ ได้แสดงภาพยนตร์ระดับโลกเรื่อง จอมคนผงาดโลก ในปี 2549 มีกิจการของตัวเอง เช่น ร้านหมูกระทะ ชื่อ สมรักษ์ย่างเกาหลี ย่านเกษตร-นวมินทร์ และมีค่ายมวยของตนเอง ชื่อค่าย ส.คำสิงห์
ต่อมา ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 สมรักษ์ เปิดตัวเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกับเพื่อนนักมวยอีก 3 คน โดยที่สมรักษ์ลงรับสมัครเลือกตั้งในเขต 10 อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ทั้งนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์ มหานคร จำกัด ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้สมรักษ์และภรรยาละลาย เนื่องจากมีหนี้สินจากการเปิดปั๊มน้ำมันกว่า 4 ล้านบาท
แต่ต่อมา สมรักษ์ ชี้แจงว่า กรณีนี้เป็นคดีเก่าที่ค้างคามาหลายทศวรรษปีแล้ว ตั้งแต่สมัยยังคงชกมวยสมัครเล่น มีสาเหตุอันเนื่องมาจากความไม่รู้ไม่เชี่ยวชาญในเรื่องเอกสารต่าง ๆ ประกอบกับธุรกิจขาดทุน จนสุดท้ายก็เลยกลายเป็นคดียืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้ว่า หากศาลสั่งให้ล้มละลาย สามารถเป็นเหตุให้สมรักษ์ต้องออกจากราชการด้วย
ล่าสุด ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป 2566 ลงสมัครสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และยังมีข้อกล่าวหาคดีพรากผู้เยาว์ สาวอายุ 17 ปี ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ รวมถึงการหย่าร้างกับภรรยาได้ 2 เดือนกว่า ซึ่งข้อเท็จจริงและความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูล วิกิพิเดีย
ขอบคุณรูปภาพ IG kamsing_family