นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน แถลงภายหลังประชุมคณะกรรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ครั้งที่ 2/2567 เพื่อพิจารณา สูตรคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ และแนวทางการศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งยังไม่ได้เป็นการสรุปว่าขึ้นค่าจ้างเท่าไหร่ โดยสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ได้นำเรื่องมิติของเวลามาใช้ในการปรับค่าจ้าง ทำให้ยืดหยุ่นต่อการปรับระหว่างปี ทำให้ค่าจ้างที่ปรับใหม่ เป็นค่าจ้างที่สะท้อนระยะเวลาการปรับค่าจ้างที่แท้จริงในปัจจุบันและเป็นธรรมกับแรงงาน เช่น
1.มีการปรับอัตราค่าจ้างครั้งหลังสุดในเดือนตุลาคม 2565
2.มีการปรับอัตราค่าจ้างครั้งใหม่ในเดือนมกราคม 2567
สูตรคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ : คิดเป็นจำนวนเดือนที่ไม่มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เท่ากับ 15 เดือน
นอกจากนี้ มาตรา 87 ที่ใช้ในการพิจารณาประกอบเพิ่มเติมจากสูตรการคำนวณได้มีการปรับช่วงของการพิจารณาให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนตัวแปรอื่น ๆ ได้แก่ ผลิตภาพแรงงาน อัตราเงินเฟ้อ อัตราสมทบของแรงงาน (ค่า L) ยังคงเหมือนสูตรเดิม
ทั้งนี้ คณะกรรมการค่าจ้าง มีมติเห็นชอบสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ตามที่คณะอนุกรรมการฯ เสนอ และเห็นชอบแนวทางการศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามพื้นที่ โดยให้มีการสำรวจข้อมูลประเภทกิจการด้านท่องเที่ยวและบริการในพื้นที่ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง 10 จังหวัด ได้แก่
1.กรุงเทพมหานคร
2.ภูเก็ต
3.ชลบุรี
4.เชียงใหม่
5.สุราษฎร์ธานี
6.กระบี่
7.สงขลา
8.พังงา
9.ประจวบคีรีขันธ์
10.ระยอง
เพื่อสำรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ มาตรฐานการครองชีพ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของลูกจ้าง และข้อเท็จจริงทางสังคมและเศรษฐกิจตามพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดจนความสามารถในการจ่ายของนายจ้างและกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เพื่อนำมาวิเคราะห์และประมวลผลประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการค่าจ้างต่อไป
ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรรมการค่าจ้างไตรภาคีอีกครั้ง ในวันที่ 26 มีนาคม 2567 และหลังจากนี้ไปจะเป็นการสำรวจซึ่งจะทำให้สามารถทราบสูตรการคำนวณการขึ้นอัตราค่าจ้างเป็นรายพื้นที่ให้เหมาะสม