สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล คือ สารที่ให้รสสัมผัสที่หวาน สามารถนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในการประกอบอาหารและผสมเครื่องดื่ม โดยสารให้ความหวานนี่จะเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และลดน้ำหนัก ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ออกมาค่อนข้างหลากหลาย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกชนิดที่สามารถรับประทานได้โดยไม่จำกัดปริมาณ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ประเภทของสารให้ความหวานแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
- แบบให้พลังงาน
- สารให้ความหวานชนิดกลุ่มของน้ำตาล เช่น กลูโคส, ซูโคส, ฟรุกโตส ส่วนใหญ่อยู่ในนม น้ำตาลทราย ผลไม้
- สารให้ความหวานที่เป็นแอลกอฮอล์ของน้ำตาล ให้พลังงานต่ำ อัตราการดูดซึม และอัตราย่อยสลายน้อยกว่ากลุ่มของน้ำตาล เช่น ไซลิทอล พบได้ใน พืช ผัก ผลไม้ตามธรรมชาติ ซอร์บิทอล สกัดได้จากอ้อย และมันสำปะหลัง
- แบบไม่ให้พลังงาน
- สารให้ความหวานที่สังเคราะห์ เช่น แอสปาร์แตม ไม่มีกลิ่น รสชาติใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายมากที่สุด
- สารให้ความหวานที่มาจากธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่จะมีหลัก ๆ 2 ชนิด คือ หญ้าหวานกับสารสกัดจากหล่อฮังก้วย หรือสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งไม่มีแคลอรี่
ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของสารให้ความหวาน
- เรื่องของโรคมะเร็ง เป็นความเชื่อมายาวนานว่าในกลุ่มของขัณฑสกรจะทำให้เกิดโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จริง เพราะงานวิจัยที่ออกมาถ้าจะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ จะต้องใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างมาก เช่น ปริมาณที่เป็นพิษต่อร่างกาย
- ทำให้เกิดโรคเบาหวาน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะมีงานวิจัยออกมาว่าสามารถที่จะใช้ในการลดน้ำหนัก และใช้ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้เมื่อเทียบกับการใช้น้ำตาลทรายปกติ
- การทำให้แบคทีเรียชนิดดีทำงานได้ไม่เต็มที่หรือตายไป เป็นเรื่องที่ไม่จริง ถ้าจะทำลายได้ต้องใช้ในปริมาณมาก ซึ่งโดยปกติแล้วคนเราจะไม่สามารถรับประทานได้มากขนาดนั้น อีกทั้งบางชนิดอาจจะทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกส์หรือเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เพิ่มจำนวนมากขึ้นได้ด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการไม่ใส่ทั้งน้ำตาลและไม่ใส่สารให้ความหวานทดแทน เนื่องจากมีงานวิจัยหลายชิ้นที่รองรับว่า การกินสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลไม่เพิ่มความอยากอาหารอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลก็ยังคงให้รสชาติที่หวานอยู่ ดังนั้น คนที่ได้รับสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลจะยังคงติดรสหวานอยู่
ทั้งนี้ ก่อนที่จะใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลควรศึกษาให้ละเอียด ดูข้อมูลบนฉลากสินค้าก่อนใช้หรือบริโภค หากเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค การเลือกใช้สารทดแทนความหวานที่เหมาะสม และรับประทานในปริมาณที่จำกัดจะได้ประโยชน์สูงสุดโดยที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพ
ที่มา: โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์
อ่านเพิ่มเติม >> แอสปาร์แตม ผลข้างเคียง มีอะไรบ้าง