นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งหลอดอาหาร มีอัตราการเกิดทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 3-5 คนในประชากร 100,000 คนต่อปี อัตราเกิดสูงที่สุดในประเทศที่มีฐานข้อมูลทางการแพทย์ เช่น จีน ญี่ปุ่น และยุโรปตะวันออก มะเร็งหลอดอาหารมีความชุกที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 50-70 ปี
มะเร็งหลอดอาหาร (Esophageal Cancer) เป็นโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในอวัยวะ ซึ่งเป็นท่อที่ทำหน้าที่ลำเลียงอาหารระหว่างปากและกระเพาะอาหาร มะเร็งชนิดนี้มีต้นกำเนิดที่เยื่อบุผิวของหลอดอาหาร แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่
1.ชนิด Squamous Cell Carcinoma มักเกิดจากเซลล์ที่ปกคลุมในหลอดอาหารเกือบทั้งหมด ตั้งแต่คอถึงในช่องอก
2.ชนิด Adenocarcinoma มักเกิดจากเซลล์ที่ผลิตสารหล่อลื่นในหลอดอาหาร โดยมักพบในส่วนล่างของหลอดอาหารในส่วนท้อง
ปัจจัยเสี่ยง
1.การสูบบุหรี่
2.การดื่มแอลกอฮอล์
3.น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
4.ภาวะกรดไหลย้อน
5.การบริโภคอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง
6.การมีมะเร็งในช่องปาก หรือมะเร็งโพรงจมูกร่วมด้วย
อาการของโรค
1.อาการปวดหรือไม่สบายที่หน้าอก
2.กลืนลำบาก (Dysphagia) รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในหลอดอาหาร
3.สูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็วโดยไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอาหาร4.อาการคลื่นไส้และอาเจียน แสบร้อนหน้าอก มีกรดไหลย้อน
4.อาการเหนื่อยง่ายหรือไม่มีแรง
5.ไอมาก ไอเรื้อรัง
การวินิจฉัยมะเร็งหลอดอาหาร : ทำได้ด้วยวิธีการส่องกล้องหลอดอาหาร (Endoscopy) โดยแพทย์จะใช้กล้องเล็ก ๆ ตรวจสอบหลอดอาหาร มักพบลักษณะได้ทั้งแผลลึก แผลตื้น ก้อนโตกีดขวางทางในรูหลอดอาหาร วิธีการตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) ในระหว่างการส่องกล้อง อาจจะทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจหามะเร็ง วิธีการการตรวจภาพ เช่น เอกซเรย์กลืนแป้ง CT Scan หรือ MRI เพื่อดูว่ามะเร็งได้แพร่กระจายหรือไม่ มีความลึกถึงชั้นใด มีการลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงหรือไม่
การรักษามะเร็งหลอดอาหาร ขึ้นอยู่กับระยะของโรค ทั่วไปจะมีวิธีการ ได้แก่ การผ่าตัด อาจจะต้องตัดหลอดอาหารส่วนที่มีมะเร็งรวมถึงเนื้อเยื่อรอบ ๆ หรือลอกผิวที่เป็นมะเร็งออก ใช้ได้กับมะเร็งระยะต้น การฉายรังสีรักษาเพื่อลดขนาดของเนื้องอก หรือทำลายเซลล์มะเร็งในระยะลุกลาม มีการกระจายต่อมน้ำเหลือง การใช้เคมีบำบัด ซึ่งเป็นยาเพื่อใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็งระยะกระจาย และการบำบัดทางภูมิคุ้มกัน เป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับมะเร็ง
ขอบคุณข้อมูล กรมการแพทย์
