มะเร็งปอด เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดทั่วโลก สำหรับประเทศไทย โรคมะเร็งปอด ถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อย ซึ่งพบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การสูบบุหรี่ หรือการได้รับควันบุหรี่ พันธุกรรม การสัมผัสสารก่อมะเร็ง อาทิ ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย และมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะ ฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น
ผู้ป่วยที่เป็น มะเร็งปอดระยะแรก มักจะไม่มีอาการ แต่เมื่อโรคดำเนินไปมากขึ้น ก็จะมีอาการ แต่มักไม่จำเพาะจึงอาจทำให้เกิดการวินิจฉัยที่ล่าช้า มีผลต่อระยะของโรคที่ลุกลามหรือแพร่กระจายไปมาก ทำให้การรักษาได้ผลไม่ดีเท่าที่ควรและมีโอกาสการรักษาหายจากโรคน้อย
สัญญาณเตือน หากมีอาการผิดปกติเหล่านี้ ผู้ป่วยควรรีบปรึกษาแพทย์
1.อาการไอเรื้อรังมากกว่า 1 เดือน
2.ไอมีเสมหะปนเลือด
3.หายใจลำบาก เหนื่อยหอบง่ายมากกว่าปกติ
4.เจ็บแน่นหน้าอก อ่อนเพลีย เป็นต้น
การรักษา
1.การผ่าตัด
2.การให้ยาเคมีบำบัด
3.การฉายรังสี
ซึ่งแพทย์จะพิจารณาจากระยะของโรค ตำแหน่งของก้อนมะเร็ง และการกระจายของโรค รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ปัจจุบัน การคัดกรองมะเร็งปอดในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ดีที่สุด คือ การทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอด แต่เนื่องด้วยมีค่าใช้จ่ายสูง จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง จึงมีคำแนะนำให้ผู้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งปอดเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยเอกซเรย์ปอดเป็นประจำทุกปี เพื่อเปรียบเทียบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สงสัยเป็นมะเร็งปอดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การป้องกันมะเร็งปอด ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคลงได้